Thursday, June 30, 2016

สาวก UFO มโนแรง พีระมิดปริศนาใต้ทะเลคือฐานเอเลี่ยน




         วงการล่ายูเอฟโอตะลึง หลังมีนักวิจัยพบร่องรอยปริศนากลางทะเล รูปร่างคล้ายพีระมิดที่จมอยู่ใต้มหาสมุทร มีฐานขนาดใหญ่ยักษ์กว่า 13.6 กิโลเมตร สาวกยูเอฟโอเชื่ออาจเป็นฐานจอดยูเอฟโอของเอเลี่ยนสมัยโบราณ

          วงการสาวกยูเอฟโอฮือฮา สก็อตต์ ซี แวร์ริ่ง เจ้าของเว็บไซต์ UFO sighting daily เปิด เผยข่าวช่างสรรหา เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2559 ว่า นายมาร์เซโล อิกาซัสตา (Marcelo Igazusta) นักวิจัยชาวอาร์เจนตินา ได้ค้นพบวัตถุปริศนากลางมหาสมุทรแปซิฟิก นอกชายฝั่งประเทศเม็กซิโก ผ่านการใช้งานโปรแกรมกูเกิ้ลเอิร์ธ ที่พิกัด  12 ° 8'1.49 "N 119 ° 35'26.39" W

  
        โดย นายสก็อต เปิดเผยว่า วัตถุประหลาดนี้มีรูปทรงคล้ายพีระมิดยักษ์ ที่ลึกลงไปจากผิวน้ำราว 5.5 กิโลเมตร เมื่อใช้เครื่องมือวัดระยะทางของกูเกิล พบว่ามีฐานกว้างประมาณ 13.6 กิโลเมตร ไม่แน่ว่าอาจเป็นพีระมิดที่จมอยู่ใต้ทะเลก็เป็นได้ ซึ่งหากมันเป็นพีระมิดจริง จะขึ้นแท่นกลายเป็นพีระมิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกไปเลย

          สำหรับข้อมูลอีกอย่างหนึ่ง ที่พอจะช่วยยืนยันได้ว่ามันน่าจะเป็นพีระมิดจริง ๆ คือการที่สถานที่ปริศนานี้ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับประเทศเม็กซิโก ซึ่งทราบกันดีว่าเป็นสถานที่ตั้งของพีระมิดของอาณาจักรมายา และจักรวรรดิแอซเท็กโบราณ

 
          จากการค้นพบดังกล่าว ทำให้นายสก็อตต์ยังเชื่อหมดใจว่า มนุษย์โบราณไม่สามารถสร้างพีระมิดขนาดใหญ่ยักษ์เช่นนี้ได้ด้วยตนเอง ต้องมีเอเลี่ยนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเป็นแน่แท้ และมันน่าจะเป็นฐานใต้ทะเลสำหรับจอด UFO ในสมัยโบราณ

ภาพจาก ufosightingsdaily
http://hilight.kapook.com/view/138901

Monday, June 27, 2016

ตื่นตา เมฆจานบินเหนือภูเขาไฟเอตนา งดงามตามธรรมชาติ




         เผยภาพปรากฎการณ์เมฆจานบินเหนือภูเขาไฟเอตนา อิตาลี เมฆก่อตัวเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ครอบปล่อง ชาวเมืองไม่พลาดแชะรูปอวดโลกออนไลน์

           เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ เผยภาพถ่ายสุดตระการตา ปรากฏการณ์เมฆจานบินเหนือภูเขาไฟเอตนา บนเกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี ซึ่งปรากฏขึ้นให้ผู้คนได้ยลความงดงามตามธรรมชาติเมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา


           สำหรับการก่อตัวขึ้นของกลุ่มเมฆในครั้งนี้ เกิดจากตัวภูเขาไฟที่ทำหน้าที่เหมือนก้อนหินในกระแสน้ำ ที่จะมีคลื่นออกมาทั้ง 2 ทาง เมื่อคลื่นจากปล่องภูเขาไฟถูกปล่อยขึ้นสู่อากาศ ไอน้ำในอากาศจะเกิดการควบแน่นที่บนยอดคลื่น ก่อนจะก่อตัวเกิดเป็นเมฆรูปประหลาดเช่นนี้ขึ้นมา

  
             ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีกระแสลมพัดผ่านมา เมฆจานบินก้อนนี้ดูเหมือนว่ามันจะหยุดอยู่นิ่ง ๆ เป็นระยะเวลาหนึ่งเลยทีเดียว ส่วนด้านการบิน ทางกัปตันได้พยายามหลบเลี่ยงเส้นทางผ่านเมฆก้อนดังกล่าว เพราะกำลังลมที่หมุนรอบ ๆ เมฆอาจจะเป็นเหตุให้เกิดหลุมอากาศได้

http://hilight.kapook.com/view/138744

Sunday, June 26, 2016

ช็อก ! เด็กชายวัย 12 โดดตึกดับต่อหน้าเพื่อน โมโหจัดโต๊ะใหม่แต่ครูไม่ปลื้ม




         เด็กชายจีนวัย 12 กระโดดอาคารเรียนดับ หลังจัดโต๊ะในห้องเรียนใหม่ แต่ครูไม่ปลื้ม สั่งจัดโต๊ะแบบเดิม

          เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2559 เว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์ รายงานว่า เกิดเหตุสลดที่โรงเรียนประถมในเมืองเหลาตี้ มณฑลหูหนานของจีน เมื่อ เสี่ยวอู๋ เด็กชายวัย 12 ปี กระโดดอาคารเรียนฆ่าตัวตาย หลังจากไม่พอใจที่ครูขอจัดโต๊ะในห้องเรียนเป็นแบบเดิม เพราะรูปแบบการจัดโต๊ะใหม่ของเขานั้นมันไม่สะดวกต่อการเดินเข้า-ออกเลย

  
         รายงานระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่เสี่ยวอู๋และเพื่อน ๆ กำลังจะเรียนจบพอดี ก่อนหน้าวันสุดท้ายของการเรียน 1 วัน เสี่ยวอู๋ได้จัดโต๊ะในห้องเรียนเป็นรูปแบบใหม่ ให้เพื่อน ๆ ทุกคนได้หันหน้าเข้าหากัน จากนั้นเขาก็กลับบ้าน

          วันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเรียน เสี่ยวอู๋มาโรงเรียนด้วยความตื่นเต้น เช้าวันนั้นเขาบอกพ่อกับแม่เตรียมชุดหล่อ ๆ ให้เขาใส่ เพราะช่วงเย็นจะมีงานวันจบการศึกษาและเสี่ยวอู๋ก็ได้รับหน้าที่เป็นพิธีกร ของงานด้วย

          แต่หลังจากมาถึงห้องเรียน เมื่อครูเข้ามาใน ห้องและพบการจัดโต๊ะรูปแบบใหม่ของเสี่ยวอู๋ ก็บอกว่าการจัดโต๊ะแบบนี้ดูไม่สะดวกเลย จึงสั่งให้นักเรียนทุกคนจัดโต๊ะแบบเดิม

          จากนั้นเพื่อน ๆ ในห้องเรียนก็ช่วยกันจัดโต๊ะให้กลับเป็นเหมือนเดิม ทำให้เสี่ยวอู๋ไม่พอใจเป็นอย่างมากและร้องไห้ออกมา เพื่อนผู้หญิงหลายคนจึงเดินเข้ามาปลอบเขา เหตุการณ์ดูเหมือนจะไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ความจริงกลับร้ายแรงกว่าที่คิด...

           เวลาประมาณ 09.00 น. จู่ ๆ เสี่ยวอู๋ก็ตบโต๊ะอย่างแรงก่อนจะวิ่งไปที่ระเบียงอาคารเรียนชั้น 4 ด้วยอารมณ์โมโห และโดยไม่คาดคิด เสี่ยวอู๋ปีนราวระเบียงแล้วกระโดดทิ้งตัวลงมาเบื้องล่าง ท่ามกลางความช็อกของเพื่อนร่วมห้อง

          หลังเกิดเหตุเสี่ยวอู๋ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที แต่ก็ไม่ทันกาล เขาถูกประกาศว่าเสียชีวิตแล้ว การ เสียชีวิตของเขาได้ทำให้วันสุดท้ายของการเรียนกลายเป็นวันแห่งความเศร้า แทนที่พ่อแม่จะได้ยิ้มยินดีกับลูก ก็กลับกลายเป็นว่าต้องจัดงานศพให้ลูก นับเป็นเรื่องน่าสลดใจอย่างยิ่ง

          ทั้งนี้ข่าวการฆ่าตัวตายของเสี่ยวอู๋ได้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์ในเวลาต่อมา โดยชาวเน็ตหลายรายมีความเห็นว่า เด็กชายมีหัวใจที่เปราะบางมาก ไม่สามารถอดทนต่อความผิดหวังได้เลย น่ากังขาว่าพ่อแม่รวมถึงครูปลูกฝังเขามาอย่างไรหนอ

ภาพจาก shanghaiist.com
http://hilight.kapook.com/view/138714

Friday, June 24, 2016

เก๋ไก๋สไลเดอร์ ! สาวร้านเพ็ทซาลอนเนรมิตลายการ์ตูนบนขน กำเนิดตูบแฟชั่นนิสต้า




         สาวพนักงานร้านเพ็ทซาลอนชาวไต้หวันปิ๊งไอ เดียคิวท์ ตัดขนตูบเป็นลายตัวการ์ตูนสุดน่ารัก ยกขบวนมาทั้งการ์ตูนดิสนีย์ ซานริโอ หรือจะแปลงโฉมตูบของคุณให้กลายเป็นสิงโตก็ยังได้นะเออ

          ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงในยุคนี้ก้าวกระโดดอย่างรวดเร็วจริง ๆ เพราะชาวเมืองหันมาเลี้ยงสัตว์เป็นเพื่อนคลายเหงากันมากขึ้น และไม่ลืมที่จะมอบสิ่งดี ๆ ให้กับสัตว์เลี้ยงที่พวกเขารักด้วย โดยเฉพาะลูกค้าร้าน Igogo ในไต้หวัน ที่มักจะพาตูบและเหมียวของตัวเองมาตัดขนในสไตล์ใหม่ไม่เหมือนใคร

  
        เว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์ เปิดเผยเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2559 เกี่ยวกับเรื่องราวของ ลี เหมยเชง สาวพนักงานร้านเพ็ทซาลอน Igogo ที่เคยเป็นช่างตัดผมมาก่อน แต่ผันตัวมาเป็นช่างตัดขนสุนัขแทน หลังจากได้ชมรายการทีวีรายการหนึ่ง เกี่ยวกับเจ้าของตูบพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ที่ตัดขนสุนัขของตัวเองให้กลายเป็นรูปร่างตัวอักษร ลีจึงปิ๊งไอเดียตัดขนตูบและขนเหมียว ให้มีรูปร่างต่าง ๆ ตามจินตนาการแล้วแต่จะรังสรรค์

          เริ่มแรก ลีหัดตัดขนสุนัขเป็นรูปร่างง่าย ๆ อย่างหัวใจหรือกระดูก และค่อย ๆ พัฒนาฝีมือขึ้นเรื่อย ๆ จนตอนนี้ เธอสามารถเนรมิตลายการ์ตูนสุดน่ารัก ทั้งมิกกี้เมาส์ เฮลโหลคิตตี้ และลายอื่น ๆ ตามใจเจ้าของ ซึ่งบางตัวก็ถูกตัดขนเป็นรูปโลโก้รถยนต์แบรนด์หรู ในขณะที่บางตัวถูกเปลี่ยนโฉมกลายเป็นไดโนเสาร์หรือสิงโตไปเลย

  
            ส่วนความยาก-ง่ายของการตัดขนสุนัขและ แมว ลีบอกว่าขึ้นอยู่กับพันธุ์ของสุนัขที่เจ้าของพามา ถ้าพันธุ์ที่ขนยาวและหนาก็จะนานเป็นพิเศษ บางตัวใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมงเต็ม ๆ ก็มี ในขณะที่เจ้าเหมียวเองก็เป็นงานที่ยากเช่นกัน เพราะพวกมันไม่ค่อยจะอยู่นิ่ง ๆ ให้ตัดขนอันเป็นที่รักสักเท่าไร

























  
http://pet.kapook.com/view151113.html