วงการล่ายูเอฟโอตะลึง หลังมีนักวิจัยพบร่องรอยปริศนากลางทะเล รูปร่างคล้ายพีระมิดที่จมอยู่ใต้มหาสมุทร
มีฐานขนาดใหญ่ยักษ์กว่า 13.6 กิโลเมตร
สาวกยูเอฟโอเชื่ออาจเป็นฐานจอดยูเอฟโอของเอเลี่ยนสมัยโบราณ
วงการสาวกยูเอฟโอฮือฮา สก็อตต์ ซี แวร์ริ่ง เจ้าของเว็บไซต์ UFO sighting daily เปิด เผยข่าวช่างสรรหา เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2559 ว่า นายมาร์เซโล อิกาซัสตา (Marcelo Igazusta) นักวิจัยชาวอาร์เจนตินา ได้ค้นพบวัตถุปริศนากลางมหาสมุทรแปซิฟิก นอกชายฝั่งประเทศเม็กซิโก ผ่านการใช้งานโปรแกรมกูเกิ้ลเอิร์ธ ที่พิกัด 12 ° 8'1.49 "N 119 ° 35'26.39" W
วงการสาวกยูเอฟโอฮือฮา สก็อตต์ ซี แวร์ริ่ง เจ้าของเว็บไซต์ UFO sighting daily เปิด เผยข่าวช่างสรรหา เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2559 ว่า นายมาร์เซโล อิกาซัสตา (Marcelo Igazusta) นักวิจัยชาวอาร์เจนตินา ได้ค้นพบวัตถุปริศนากลางมหาสมุทรแปซิฟิก นอกชายฝั่งประเทศเม็กซิโก ผ่านการใช้งานโปรแกรมกูเกิ้ลเอิร์ธ ที่พิกัด 12 ° 8'1.49 "N 119 ° 35'26.39" W
โดย นายสก็อต เปิดเผยว่า วัตถุประหลาดนี้มีรูปทรงคล้ายพีระมิดยักษ์
ที่ลึกลงไปจากผิวน้ำราว 5.5 กิโลเมตร เมื่อใช้เครื่องมือวัดระยะทางของกูเกิล
พบว่ามีฐานกว้างประมาณ 13.6 กิโลเมตร
ไม่แน่ว่าอาจเป็นพีระมิดที่จมอยู่ใต้ทะเลก็เป็นได้ ซึ่งหากมันเป็นพีระมิดจริง จะขึ้นแท่นกลายเป็นพีระมิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกไปเลย
สำหรับข้อมูลอีกอย่างหนึ่ง ที่พอจะช่วยยืนยันได้ว่ามันน่าจะเป็นพีระมิดจริง ๆ คือการที่สถานที่ปริศนานี้ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับประเทศเม็กซิโก ซึ่งทราบกันดีว่าเป็นสถานที่ตั้งของพีระมิดของอาณาจักรมายา และจักรวรรดิแอซเท็กโบราณ
สำหรับข้อมูลอีกอย่างหนึ่ง ที่พอจะช่วยยืนยันได้ว่ามันน่าจะเป็นพีระมิดจริง ๆ คือการที่สถานที่ปริศนานี้ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับประเทศเม็กซิโก ซึ่งทราบกันดีว่าเป็นสถานที่ตั้งของพีระมิดของอาณาจักรมายา และจักรวรรดิแอซเท็กโบราณ
จากการค้นพบดังกล่าว ทำให้นายสก็อตต์ยังเชื่อหมดใจว่า มนุษย์โบราณไม่สามารถสร้างพีระมิดขนาดใหญ่ยักษ์เช่นนี้ได้ด้วยตนเอง ต้องมีเอเลี่ยนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเป็นแน่แท้ และมันน่าจะเป็นฐานใต้ทะเลสำหรับจอด UFO ในสมัยโบราณ
ภาพจาก
ufosightingsdaily
http://hilight.kapook.com/view/138901