Sunday, October 30, 2016

แมวเป็นสัตว์ที่คิดลอบทำร้าย ! เหมียวขัดขาหนูน้อย เอาซะสะดุดล้มหัวคะมำ (ชมคลิป)




       ประโยคที่ว่าแมวเป็นสัตว์ที่คิดจะครองโลก เห็นทีจะจริง มาชมหลักฐานคาหนังคาเขา เจ้าเหมียวแสบแอบขัดขาหนูน้อยที่กำลังเดินจนล้มหัวคะมำ หน็อยแน่ คิดจะกำจัดมนุษย์ใช่ไหม นิสัย !!

        คลิปวิดีโอนี้ถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ เมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา แสดงภาพเหตุการณ์วีรกรรมแสนแสบของเจ้าเหมียวสีดำแซมขาวตัวหนึ่ง ที่เล่นไม่ซื่อ ขัดขาเจ้านายตัวน้อยของตัวเองซะจนสะดุดล้ม ก่อนลุกขึ้นมานั่งดูแล้วทำหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

        คลิปวิดีโอนี้บันทึกได้จากประเทศจีนและกลายเป็นคลิปเรียกเสียงหัวเราะบนโซเชียลเน็ตเวิร์กจีนในช่วง 2 วันที่ผ่านมา บอกเล่าเหตุการณ์ขณะที่เจ้าเหมียวตัวกลมตัวนี้กำลังนอนอยู่บนพื้น โดยมีหนูน้อยยืนอยู่ใกล้ ๆ

  
         เจ้าแมวเหมียวไม่ได้มีท่าทีมีพิษสงอะไรเลยสักนิด จนกระทั่งวินาทีที่หนูน้อยกำลังจะวิ่งไปหาคุณพ่อคุณแม่ เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเจ้าเหมียวแสบดันยื่นเท้าหน้าออกมาตะปบขาหนูน้อยพอดิบพอดี เล่นเอาเธอเสียหลักล้มไม่เป็นท่า

        แน่นอนว่าโดนลอบทำร้ายด้วยวิธีไม่ซื่อแบบนี้ หนูน้อยเลยไม่รอช้า รีบชี้นิ้วไปที่เจ้าเหมียวเพื่อฟ้องคุณพ่อคุณแม่ทันที ว่าไอ้เจ้าหน้าขนตัวนี้เนี่ยแหละที่ทำหนูล้ม ส่วนเจ้าเหมียวนั้นหลังจากก่อเรื่องก็ลุกขึ้นมานั่งดูหนูน้อยเฉย ก็เลยกลายเป็นภาพน่ารักน่าชังอย่างที่เห็นด้วยประการฉะนี้


http://pet.kapook.com/view159671.html

Thursday, October 27, 2016

เหมือนฝัน มงต์ แซงต์ มิเชล วิหารกลางทะเล งดงามราวหลุดจากเทพนิยาย




       พาชมภาพบรรยากาศ มงต์ แซงต์ มิเชล วิหารกลางทะเลแห่งประเทศฝรั่งเศส สถานที่ท่องเที่ยวสุดสวยงามน่าอัศจรรย์ งดงามราวหลุดจากเทพนิยายเลยทีเดียว

        มงต์ แซงต์ มิเชล (Mont Saint Michel) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดของประเทศฝรั่งเศส เป็นวิหารที่ตั้งอยู่บนเกาะโดดเดี่ยวกลางทะเล ฝั่งตะวันตก บริเวณจังหวัดม็องช์ แคว้นนอร์มังดีของประเทศฝรั่งเศส
        วิหารมงต์ แซงต์ มิเชล เป็นสถาปัตยกรรมยุคกลางตั้งอยู่บนเกาะหินแกรนิตที่สูง 600 เมตรจากพื้น ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 708 โดยนักบุญโอแบรต์ (Saint Aubert) เพื่ออุทิศถวายให้กับอัครเทวทูตไมเกิลหรือมิเชล นักบุญผู้ปกป้องคุ้มครองชาวเรือในสมัยนั้น บริเวณรอบ ๆ วิหารมงต์ แซงต์ มิเชล ถูกสร้างให้เป็นเมืองเล็ก ๆ ในสมัยยุคกลางที่ถูกรักษาและป้องกันไว้ภายใต้รั้วกำแพงวิหาร ทั้งเกาะจะล้อมรอบไปด้วยน้ำทะเล ซึ่งสามารถเดินทางไปด้วยเรือ หรือในช่วงเวลาที่น้ำลง สามารถเข้าถึงได้ด้วยการเดินเท้าไปตามหาดทราย อีกทั้งตำแหน่งที่ตั้งของวิหารมงต์ แซงต์ มิเชล ยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดีตามธรรมชาติ ทำให้สถานที่แห่งนี้ไม่เคยถูกพิชิตไปได้ตลอดช่วงสงครามร้อยปี

 
        ต่อมาหลังจากช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส ไม่มีนักบุญรายใดอาศัยอยู่ วิหารมงต์ แซงต์ มิเชลจึงถูกปิดตัวก่อนจะถูกเปลี่ยนเป็นเรือนจำที่คุมขังนักโทษทางการเมือง จนกระทั่งในปีค.ศ. 1836 ได้ถูกยกเลิกใช้เป็นเรือนจำ โดยวิกตอร์ อูโก นักเคลื่อนไหวทางวัฒนธรรมของฝรั่งเศสได้รณรงค์ให้มีการปฏิสังขรณ์วิหารมงต์ แซงต์ มิเชลจนกลายเป็นสถาปัตยกรรมสมบัติของชาติ และถูกประกาศให้เป็นอนุเสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์ในปีค.ศ.1874 กระทั่งได้รับประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมโลก เมื่อปี ค.ศ.1979 (พ.ศ. 2522)

  
           ปัจจุบันวิหารมงต์ แซงต์ มิเชล มีเส้นทางเข้าไปถึงได้สะดวก แต่ทั้งนี้ก็ต้องเช็กตารางน้ำขึ้น-น้ำลงด้วย เนื่องจากมีบางช่วงที่น้ำขึ้นสูงจนท่วมทางเดินเข้า วิหารมงต์ แซงต์ มิเชล นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศฝรั่งเศสที่เป็น โดยภายในมีทั้งร้านอาหารและโรงแรมที่พัก รวมทั้งสถานอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวไปเยือนเป็นจำนวนมากทุก ๆ ปี 



ข้อมูลจาก 
about-france.com, en.wikipedia.org
http://travel.kapook.com/view159478.html

Saturday, October 22, 2016

จีนพบรอยเท้ายักษ์ปริศนา ใหญ่กว่ามนุษย์ 2 เท่า เชื่อเป็นบิ๊กฟุตในตำนาน




       ชาวจีนพบรอยเท้าปริศนาขนาดยักษ์ ยาวกว่า 57 เซนติเมตร เชื่อเป็นของ "เหย่เหริน" (มนุษย์หมี) หรือบิ๊กฟุตในตำนานของแถบอเมริกาเหนือ

       เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2559 เว็บไซต์มิเรอร์ เผยคลิปวิดีโอพร้อมรายงานว่า ชาวบ้านชาวจีน พบรอยเท้าข้างซ้ายที่มีขนาดใหญ่กว่ามนุษย์ปกติ ประทับอยู่บนแผ่นหินกลางหุบเขา ในมณฑลกุ้ยโจว ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน


    จากรายงานระบุว่า ขนาดของรอยเท่ายักษ์นี้วัดได้ความยาว 57 เซนติเมตร กว้าง 20 เซนติเมตร และลึก 3 เซนติเมตร ซึ่งเมื่อเทียบกับมนุษย์ปกติแล้วมีขนาดใหญ่กว่าถึง 2 เท่าด้วยกัน ทั้งนี้ ยังมีชาวบ้านอีกกลุ่ม พบรอยเท้าลักษณะเดียวกันนี้ แต่เป็นข้างขวาที่หุบเขาแห่งอื่น 

 
    โดยชาวบ้านในพื้นที่เชื่อว่า รอยเท้าปริศนาขนาดใหญ่นี้ เป็นของเหย่เหริน (Yeren) หรือมนุษย์หมี ตามความเชื่อของจีน ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตลึกลับขนาดใหญ่อาศัยอยู่ป่าลึก มีลักษณะคล้ายมนุษย์แต่มีขนดกปกคลุมอยู่ทั่วร่าง พวกเดียวกับบิ๊กฟุต (Bigfoot) หรือไอ้ตีนโตของแถบอเมริกาเหนือ ซึ่งจริง ๆ มันมีตัวตนหรือไม่นั้น ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ และยังคงเป็นที่ถกเถียงกันจนถึงทุกวันนี้


ภาพจาก 烟花三月下扬州 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
http://hilight.kapook.com/view/143801


Wednesday, October 12, 2016

ผู้ชมช็อก ! หนุ่มช้ำรักถ่ายทอดสดนาทียิงตัวตายผ่านไลฟ์เฟซบุ๊ก




            หนุ่มตุรกีสุดเศร้า แฟนสาวนอกใจไปมีชายอื่น ตัดสินใจยิงตัวตายไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมกล่าวอำลา อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอ

              สำนักข่าวอินเตอร์เนชั่นแนล บิสเนส ไทมส์  รายงานข่าวชวนสะเทือนใจ เออร์โดกัน เจอราน หนุ่มวัย 22 ปี ชาวเมืองออสมานิเย ประเทศตุรกี ฆ่าตัวตายถ่ายทอดสดลงเฟซบุ๊ก เหตุเพราะอกหักและทำใจไม่ได้ที่คนรักของเขาทิ้งไปหาคนอื่น

  
            ก่อนหน้าที่เออร์โดกันจะตัดสินใจฆ่าตัวตาย เขาเคยโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กของเขาว่าเขาเสียใจที่แฟนสาวปันใจไปหาคนอื่น อีกทั้งเคยโพสต์เป็นนัย ๆ ถึงความตาย และ 11 ชั่วโมงก่อนที่เขาจะยิงตัวเอง เขาโพสต์ว่าเขา "รู้สึกเจ็บ จิตใจแตกสลาย"

              ในคลิปวิดีโอไลฟ์ เออร์โดกันไม่ได้ใส่เสื้อ เขาพูดกับกล้องว่า "ไม่มีใครเชื่อผมเลยพอผมบอกว่าผมจะฆ่าตัวตาย เอาสิ ดูเลย" หลังพูดจบเขายกปืนขึ้นและเหนี่ยวไก เขาพลาดในนัดแรก และยิงอีกครั้ง จากในคลิปจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นและภาพตัดไป คลิปดังกล่าวมีผู้ชมเป็นจำนวนมาก มีการแชร์ออกไปกว่า 4,000 ครั้ง และในขณะที่กำลังถ่ายทอดสดอยู่นั้น เพื่อน ๆ ของเออร์โดกันต่างก็เข้าไปโพสต์ว่าห้ามไม่ให้เขาตัดสินใจฆ่าตัวตาย โดยรายหนึ่งได้โพสต์ว่า "เห็นแก่พระเจ้า หยุด อย่าทำแบบนี้"
 
              เหตุสลดใจนี้เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม 2559 สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ญาติของเออร์โดกันได้ยินเสียงปืนดังขึ้นเวลาประมาณ 15.00 น. จึงเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น และรีบนำตัวเขาส่งโรงพยาบาลทันที แต่ก็สายเกินไป เออร์โดกันเสียชีวิตในเวลาต่อมา


http://hilight.kapook.com/view/143301

Monday, October 10, 2016

รักไม่มีข้อแม้ พ่ออุ้มลูกป่วยชูเหนือหัว เดินฝ่าน้ำท่วมสูง 2 ชั่วโมงไปโรงพยาบาล




        โลกออนไลน์แชร์เกลื่อน ชายอินเดียอุ้มลูกน้อยป่วยชูเหนือหัว พาเดินฝ่าน้ำท่วมระดับอกนานกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อพาลูกไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด

          สำนักข่าว CCTV ของจีน รายงานว่า ภาพถ่ายชุดนี้ถูกแชร์เกลื่อนบนโลกออนไลน์มาตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา แสดงภาพเหตุการณ์ที่พิสูจน์ให้เห็นรักแท้ของคนเป็นพ่อได้อย่างชัดเจน เมื่อคุณพ่อวัย 30 ปี ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคทุกอย่าง แม้ว่าหมู่บ้านของเขาจะถูกตัดขาดจากในเมืองเพราะน้ำท่วมสูง แต่เมื่อลูกน้อยวัย 6 เดือนล้มป่วย เขาก็อุ้มลูกน้อยชูเหนือหัว พาเดินฝ่าน้ำท่วมสูงนานกว่า 2 ชั่วโมง จนตัวแทบจะเปื่อยเลยทีเดียว

  
             เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลายพื้นที่ในรัฐอานธรประเทศของอินเดีย ได้ประสบกับภาวะน้ำท่วมสูง หนึ่งในนั้นคือหมู่บ้านกุฑุมุสาเร ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก แน่นอนว่าในช่วงนี้ผู้คนก็พยายามกันอย่างมากที่จะใช้ชีวิตอยู่อย่างง่ายที่สุด และดูแลสุขภาพให้ดีที่สุด แต่เรื่องความเจ็บป่วยบางครั้งก็ยากที่จะป้องกันได้ และเคราะห์ร้ายก็มาตกกับครอบครัวของ พันกี ซาเทียบู เมื่อลูกสาวตัวน้อยวัยเพียง 6 เดือนของเขา ได้ล้มป่วย มีไข้สูง ทำอย่างไรไข้ก็ไม่ลดลงเลย

          แม้ว่าหมู่บ้านจะถูกตัดขาดจากน้ำท่วมสูงระดับอก แถมยังท่วมเป็นบริเวณกว้าง แต่พันกีก็ได้ตัดสินใจอุ้มลูกน้อยขึ้นเหนือศีรษะ พาลุยโคลนฝ่าน้ำท่วม เพื่อนำตัวลูกส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ซึ่งอยู่ห่างหมู่บ้านเกือบ 5 กิโลเมตร และเขาต้องเดินลุยน้ำนานกว่า 2 ชั่วโมง เกิดเป็นภาพความรักของพ่อที่ถูกแชร์เกลื่อนบนโลกออนไลน์ในขณะนี้

  
              ทั้งนี้รายงานระบุว่าหลังจากที่หนูน้อยถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว แพทย์ก็ได้เผยว่าหนูน้อยติดเชื้อไวรัส อาการน่าเป็นห่วง แต่ก็ได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิดแล้ว

ภาพจาก agrinio24.com
http://hilight.kapook.com/view/143189