Wednesday, September 27, 2017

ฮือฮา พบเมืองโบราณที่หายสาบสูญไป 2,000 ปี สมัยอเล็กซานเดอร์มหาราช




          เผยรายงานชวนฮือฮา นักโบราณคดีค้นพบเมืองโบราณทางตอนเหนือของอิรัก ซึ่งหายสาบสูญไปนานกว่า 2,000 ปี โดยเชื่อว่าก่อตั้งขึ้นในสมัยของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช

          เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2560 เว็บไซต์อินดิเพนเดนท์ เผยรายงานว่า ทีมนักโบราณคดีชาวอังกฤษและอิรัก ซึ่งนำโดยผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภัณฑ์บริติช ในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ได้ค้นพบเมืองโบราณที่หายสาบสูญไปเป็นเวลานานกว่า 2,000 ปี ที่บริเวณเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถาน ทางตอนเหนือของประเทศอิรัก หลังจากใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีภาพถ่ายจากโดรนสำรวจ และระบบการวิเคราะห์ภาพถ่ายอัจฉริยะช่วยเหลือ 


         โดยเมืองแห่งนี้มีชื่อว่า คาลัตกา ดาร์บันด์ (Qalatga Darband) ซึ่งเชื่อว่าก่อตั้งขึ้นตั้งแต่สมัย 331 ปีก่อนคริสตกาล (พ.ศ. 213) ในสมัยของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช ซึ่งนอกจากพบสถานที่ตั้งเมืองโบราณดังกล่าว เบื้องต้นทางทีมสำรวจยังพบเหรียญสมัยกรีก และรูปปั้นเทพเจ้าสไตล์เกรโกโรมัน ที่โรมันสร้างงานศิลปะเลียนแบบศิลปะกรีก

          ดร.จอห์น แมคกินนิส ผู้นำทีมสำรวจภาคพื้นดินเผยว่า แม้มันจะเป็นช่วงเวลาที่ผ่านมานานมาก แต่ทางทีมสำรวจเชื่อว่า พื้นที่แห่งนี้เคยเป็นเมืองที่คึกคักบนเส้นทางจากอิรักไปยังอิหร่าน สามารถจินตนาการได้ว่า มีชาวบ้านนำไวน์มาส่งมอบให้กับกองทหารที่ผ่านมาระหว่างทางนี้ 


         สำหรับพื้นที่ดังกล่าว เริ่มได้รับความสนใจจากบรรดานักโบราณคดีภายหลังจากทาง CIA ได้มีการเปิดเผยภาพถ่ายทางดาวเทียมของปี 1960 (พ.ศ. 2503) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงซากปรักหักพังอันเป็นเค้าโครงของเมืองโบราณในอดีต ทาง ดร.แมคกินนิส และทีมสำรวจจึงได้ใช้โดรนออกสำรวจเค้าโครงสิ่งก่อสร้างในบริเวณดังกล่าว

          โดยทางทีมสำรวจจะทำการเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวอีกครั้งในสัปดาห์นี้ เพื่อทำการสำรวจเพิ่มเติม ซึ่ง ดร.แมคกินนิส เปิดเผยว่า สิ่งที่ทีมสำรวจคาดหวังว่าจะพบคือหลักฐานที่เกี่ยวกับภาษา

ภาพจาก britishmuseum

รายละเอียดเพิ่มเติมจาก
thetimes 
https://travel.kapook.com/view180279.html

Monday, September 18, 2017

ร้ายไม่เบา เจ้าเหมียวตัวนี้ดักไถเงินคนเดินผ่านได้เป็นกอง นี่สินะ แมวกวักของจริง




          พบกับเจ้าแคชนิป แมวกวักที่เรียกเงินได้จริง ๆ อาศัยความขี้อ้อน น่าเอ็นดู เฝ้ารอเหยื่ออยู่หน้าประตูกระจก ก่อนดักไถเงินจากคนเดินผ่าน จนพนักงานต้องติดป้ายเตือน แต่หากใครเต็มใจให้ เงินที่ได้ก็จะนำไปบริจาคช่วยคนอื่น ๆ ต่อไป

           หลายคนคงรู้จักแมวกวัก ตามความเชื่อที่ว่าจะช่วยเรียกโชคลาภเงินทองมาให้ แต่จะรู้สึกประหลาดใจแค่ไหน หากจะมีเจ้าแมวกวักตัวเป็น ๆ สามารถเรียกเงินได้จริง ๆ โดยเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2560 เว็บไซต์ Love Meow ได้พาไปรู้จักกับเจ้าเหมียวที่มีพรสวรรค์สุดพิเศษไม่เหมือนตัวไหน เพราะสามารถไถเงินจากคนที่เดินผ่านได้ และดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งที่มันโปรดปรานแบบสุด ๆ เลยด้วย


          เจ้าเหมียวตัวนี้ถูกเรียกว่า แคชนิป (CASHnip) เป็นการเล่นเสียงในภาษาอังกฤษจากคำว่า แคทนิป (Catnip) ซึ่งคือ พืชสมุนไพรที่ออกฤทธิ์สร้างความสุขให้กับแมว หรือที่รู้จักกันว่ากัญชาแมว แต่เจ้าเหมียวตัวนี้สนใจแต่เงินสด (Cash) จึงเป็นที่มาของชื่อ CASHnip นั่นเอง

           เจ้าแคชนิป มีสถานที่ประจำอยู่ที่สำนักงานด้านการตลาดของบริษัท GuRuStu ในเมืองทัลซา รัฐโอคลาโฮมา สหรัฐฯ มันชอบออกมานั่งที่ริมประตูกระจก ซึ่งหากดูเผิน ๆ แล้วอาจจะดูเหมือนแมวออฟฟิศทั่ว ๆ ไป แต่หารู้ไม่ว่า มันมีสกิลการรีดไถเงินจากคนที่เดินผ่านได้เป็นอย่างดี ใครที่เห็นมันมีอันต้องเป็นเหยื่อความน่าเอ็นดู ควักกระเป๋าหยิบแบงก์ออกมาหยอดให้มันในที่สุด











          สำหรับเจ้าแคชนิป อดีตเคยอยู่ที่สถานสงเคราะห์ในเมือง ก่อนทางเจ้าของบริษัทจะรับมันมาเลี้ยงดูตั้งแต่อายุได้เพียง 6 เดือน หลังจากเจ้าแคชนิปมาอยู่ที่ออฟฟิศแห่งนี้ ความน่ารักขี้อ้อนและน่าเอ็นดูของมัน ก็ทำให้มันกลายเป็นที่รักของพนักงานหลายคน

           โดยเมื่อประมาณ 1 เดือนก่อน สจ๊วต แม็คแดเนียล เจ้าของบริษัท และบรรดาพนักงาน ก็มีอันต้องประหลาดใจอย่างมาก หลังจากเห็นแบงก์ดอลลาร์จำนวนหนึ่งกองอยู่ที่หน้าประตู ซึ่งแต่ละใบมีรอยยับยู่ยี่ แสดงให้เห็นว่ามันถูกสอดผ่านมาทางร่องประตูกระจก โดยเบื้องต้น พวกเขาจึงสันนิษฐานว่า เนื่องจากออฟฟิศของเขาอยู่ใจกลางเมือง ที่ด้านหน้ามีคนพลุกพล่านเดินผ่านไป-มามาก จึงคิดว่าผู้คนเหล่านั้นน่าจะหยุดเล่นกับเจ้าแคชนิป โดยการใช้แบงก์สอดมาแหย่เล่นกับมัน ก่อนเจ้าแคชนิปจะจัดการฉกฉวยเงินนั้นเข้ามา และเมื่อพวกเขาติดตามดู ก็พบว่าสิ่งที่พวกเขาสันนิษฐานนั้น เป็นความจริง 

           ต่อมา ทางพนักงานจึงจัดการทำป้ายมาเตือนให้ผู้คนระวัง หากใครแวะเล่นกับเจ้าแคชนิป อาจจะเผลอตกเป็นเหยื่อของมันโดยไม่รู้ตัว หรือใครที่สมัครใจอยากจะตกเป็นเหยื่อของมันก็ยินดี เพราะนอกจากจะได้รับความเพลิดเพลินจากการเล่นกับมันแล้ว เงินจำนวนนั้นยังถูกนำไปบริจาคให้กับศูนย์สงเคราะห์ เพื่อนำไปช่วยคนไร้บ้านในพื้นที่ ผ่านมูลนิธิ Tulsa Day Center for the Homeless

           โดยทางบริษัทเผยว่า เจ้าเหมียวแคชนิปนับเป็นความภาคภูมิใจของที่แห่งนี้เลย โดยจนถึงตอนนี้มันสามารถหาเงินบริจาคไปช่วยที่ศูนย์สงเคราะห์ได้มากกว่า 100 ดอลลาร์ (ราว 3,300 บาท) เจ้าแคชนิชเป็นแมวที่พิเศษสุด ๆ มันไม่เพียงแต่จะได้รับโอกาสได้มีชีวิตใหม่ แต่มันยังทำให้คนไร้บ้านอื่น ๆ ได้รับโอกาสดี ๆ ด้วยเช่นกัน น่าประทับใจจริง ๆ

https://pet.kapook.com/view179594.html


Saturday, September 16, 2017

ชาวบ้านผงะ เจอจระเข้เป็น ๆ ในสระเพื่อนบ้าน แจงแช่ไว้รอทำมื้อค่ำ




         ชาวบ้านในเมืองเฉิงตูแตกตื่น พบจระเข้นอนในบ่อน้ำเพื่อนบ้าน เจ้าของแจงเก็บไว้รอทำอาหาร ก่อนถูกบีบให้รีบนำออกไปไกล ๆ

          
วันที่ 15 กันยายน 2560 เว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์ เผยเรื่องราวสุดช็อก เมื่อชาวบ้านรายหนึ่งในเมืองเฉิงตู ประเทศจีน ต้องตกใจสุดขีด เมื่อเจอจระเข้ นอนอยู่ในสระเลี้ยงปลาของเพื่อนบ้าน สร้างความแตกตื่นให้กับผู้พักอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวเป็นอย่างมาก 


          หลังเรื่องราวเริ่มจะลุกลามไปใหญ่โต ชายคนหนึ่งก็ได้ออกมาชี้แจงว่า จระเข้ความยาว 1 เมตรนี้ ไม่ได้หลุดมาจากไหน แต่มันถูกเตรียมไว้เป็นเมนูอาหารค่ำของเขา ซึ่งเตรียมจะนำมารับประทานกับเพื่อน ๆ และก็ได้นำเทปมารัดปากสัตว์ร้ายนี้ไว้แล้วเพื่อป้องกันอันตราย

           อย่างไรก็ดี แม้จะมีการอธิบายความจริงแล้ว แต่ชาวบ้านบริเวณดังกล่าวก็ยังรู้สึกหวาดกลัว ทำให้หัวหน้าชุมชนต้องเข้าไปขอให้ชายคนนี้ช่วยเอาจระเข้ตัวนี้ออกไปจากบริเวณดังกล่าวด้วย ซึ่งแม้จะสร้างความไม่พอใจเล็กน้อย แต่สุดท้ายเจ้าของบ้านก็ยอมนำเจ้าจระเข้นี้ไปอยู่ที่อื่นแล้ว

         
สำหรับจระเข้ดังกล่าว รายงานระบุว่า เป็นจระเข้น้ำจืด ซึ่งมีความดุร้าย และเป็นสัตว์คุ้มครองในประเทศจีน และแม้จะมีชาวจีนบางส่วนที่นิยมนำมันทำทำเป็นอาหาร แต่การพบจระเข้เป็น ๆ ในสระน้ำเพื่อนบ้านนั้นก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องปกติอยู่ดี

ภาพและข้อมูลจาก
shanghaiist.com
https://hilight.kapook.com/view/160210

Thursday, September 14, 2017

สลด ชนเผ่าลึกลับในป่าอะเมซอนกว่า 20 ชีวิต ถูกนักขุดทองสังหาร-หั่นศพทิ้งแม่น้ำ




        รายงานเผยเหตุสลด ชนเผ่าในป่าอะเมซอนที่ไม่เคยติดต่อกับโลกภายนอก จำนวนกว่า 20 ชีวิต ถูกโจมตีและสังหารโดยกลุ่มนักขุดทอง ซึ่งถูกจับได้หลังเมาแล้วคุยโม้ บอกฆ่าแล้วหั่นศพโยนทิ้งแม่น้ำ

          เมื่อหลายปีที่ผ่านมา ทั่วโลกเคยฮือฮาหลังจากได้มีการค้นพบชนเผ่าอินเดียแดง หรือ คนป่ากลุ่มหนึ่งที่อาศัยอยู่ในป่าอะเมซอน บริเวณพรมแดนบราซิลและเปรู โดยชนเผ่าเหล่านี้ดำรงชีวิตอยู่ในลักษณะเช่นเดียวกับมนุษย์สมัยโบราณ ซึ่งนักวิเคราะห์ได้ระบุว่า ชนเผ่ากลุ่มนี้ไม่เคยติดต่อกับโลกภายนอกเลย 

          ทว่าเมื่อไม่นานมานี้ ได้เกิดเหตุชวนสลดขึ้น โดยรายงานของเว็บไซต์เมโทร เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2560 ซึ่งอ้างอิงตามแหล่งข่าวท้องถิ่น เผยว่า กลุ่มชนเผ่าดังกล่าวจำนวนมากกว่า 20 ชีวิต ถูกสังหารโดยกลุ่มนักลักลอบขุดทองอย่างผิดกฎหมาย ในพื้นที่ตะวันแถบตะวันตกเฉียงเหนือของบราซิล ติดกับพรมแดนประเทศเปรูและโคลอมเบีย


       โดยตามรายงานของทางมูลนิธิชนเผ่าอินเดียนแดงของบราซิล หรือ ฟูไน (Funai) เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนักขุดทองได้ 2 ราย หลังจากพวกเขาได้มีการดื่มสุราจนไม่ได้สติ แล้วเอ่ยปากคุยโวโอ้อวดถึงเรื่องการสังหารกลุ่มชนเผ่าดังกล่าว โดยพวกเขาได้กล่าวอวดอ้างว่า หลังจากการฆ่าได้จัดการหั่นศพของคนป่าเหล่านั้นเป็นชิ้น ๆ แล้วโยนทิ้งลงแม่น้ำ

          การฆาตกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นที่บริเวณพื้นที่ Vale do Javari บนเนื้อที่กว้างใหญ่ประมาณกว่า 21 ล้านเอเคอร์ (ราว 52.5 ล้านไร่ ) และอยู่ห่างจากมาเนาส์ เมืองหลวงของรัฐอามาโซนัส  ประเทศบราซิล ประมาณ 745 ไมล์ (ราว 1,200 กิโลเมตร) ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีชนเผ่าพื้นเมืองอาศัยอยู่กันจำนวนอย่างน้อย 14 ชนเผ่า

          โดย อะเดลสัน โครา คานามารี หัวหน้าชนเผ่าหนึ่ง เผยกับรายงานของท้องถิ่น ระบุว่า มีชาวเผ่าจำนวน 18-21 ราย ถูกโจมตีและฆ่าเสียชีวิต ซึ่งหากเรื่องราวดังกล่าวนี้มีการยืนยันข้อเท็จจริง ทางมีแชล เตเมร์ ประธานาธิบดีบราซิล และรัฐบาลของเขาจะต้องออกมารับผิดชอบต่อการฆาตกรรมทำลายเผ่าพันธุ์ในครั้งนี้


         "กลุ่มคนบุกรุกเหล่านี้ คือพวกเจ้าของที่ดิน, นักล่าสัตว์ และนักขุดทอง พวกชนเผ่าหลายคนถูกฆ่าตายขณะที่อยู่โดยลำพัง ซึ่งพวกเราไม่สามารถรู้ได้แน่ชัดว่าเหตุเกิดวันที่เท่าไหร่ และจำนวนคนที่ตายทั้งหมดมีกี่คน" อะเดลสัน กล่าว

          ทั้งนี้ทางด้านองค์กรนานาชาติที่ส่งเสริมและช่วยเหลือการอยู่รอดของชนเผ่า (Survival International) ได้ออกมาประณามเหตุการสังหารดังกล่าว พร้อมทั้งยังได้เผยข้อมูลว่า เรื่องราวเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อเดือนก่อน แต่เพิ่งจะมาถูกเปิดเผยเป็นที่รับรู้ หลังจากทางนักขุดทองดังกล่าวหลุดปากพูดเรื่องนี้ออกมา

          โดยสื่อท้องถิ่นระบุว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของรัฐและทางเจ้าหน้าสำนักงานอัยการกำลังอยู่ระหว่างร่วมมือกันดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าว

ภาพจาก survivalinternational
https://hilight.kapook.com/view/160105