Friday, March 17, 2017

ปลื้มปริ่ม.. หนุ่มใจดีประดิษฐ์วีลแชร์จิ๋วให้ปลาทองพิการ ให้ว่ายน้ำตุ๊บป่องได้เหมือนเดิม




          หนุ่มใจดีประดิษฐ์วีลแชร์จิ๋วช่วยปลาทองพิการ หลังกระเพาะปัสสาวะผิดปกติจนไม่สามารถพยุงตัวว่ายน้ำได้ โลกออนไลน์แห่ซาบซึ้งน้ำใจ ยกนิ้วให้รัว ๆ

            ไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์น้อย-ใหญ่ต่างก็รักชีวิตของมันทั้งนั้น และสำหรับสัตว์น้ำอย่างปลาแล้ว การว่ายน้ำถือเป็นชีวิตของมันเลยก็ว่าได้ เพราะหากมันไม่สามารถว่ายน้ำได้ก็เท่ากับตายเลยทีเดียว

ปลาทอง  เป็นสัตว์เลี้ยงที่มักจะเป็นโรค Swim bladder disease หรือ โรคเสียการทรงตัว ซึ่งสาเหตุการเกิดโรคยังไม่แน่ชัด โดยอาจเกิดจากความผิดปกติของถุงลมระบบแลกเปลี่ยนก๊าซผิดปกติ หรืออาจเกิดจากการทำงานของระบบย่อยอาหารผิดปกติ ทำให้เกิดก๊าซมาก อันทำให้มันไม่สามารถควบคุมการทรงตัวในการว่ายน้ำได้ โดยมันจะไม่สามารถพยุงตัวขึ้นมาลอยได้ จะติดอยู่ที่ก้นตู้หรือบ่อปลา และหากปล่อยไว้นาน ๆ อาจจะตายได้ แต่สำหรับเจ้าปลาทองตัวนี้ นับว่ามันโชคดีอย่างสุด ๆ

            โดยเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2560 เว็บไซต์เมโทร ได้หยิบเรื่องราวน่ารักชวนประทับใจมานำเสนอให้ได้ชม โดยระบุว่า เดเร็ก หนุ่มพนักงานร้านขายสัตว์น้ำท้องถิ่นในเมืองแซนแอนโทนีโอ รัฐเท็กซัส สหรัฐฯ ได้ทำการประดิษฐ์วีลแชร์ ขนาดจิ๋วให้กับปลาทองของลูกค้าตัวหนึ่ง ซึ่งมีอาการกระเพาะปัสสาวะติดเชื้อ


            โดยเดเร็กได้นำท่ออากาศเล็ก ๆ ที่ใช้สำหรับตู้ปลา มาทำเป็นห่วงคล้องตัวปลาทอง จากนั้นก็ติดวาล์วปิดท่อไว้ที่ด้านใต้ ให้ทำหน้าที่เป็นเหมือนเก้าอี้คอยค้ำพยุงให้เจ้าปลาทอง ส่วนที่ด้านบนใช้โฟมผูกคล้องกับท่ออากาศทำเป็นทุ่นลอยน้ำ เพื่อถ่วงสมดุลช่วยให้เจ้าปลาทองทรงตัวลอยขึ้นไปได้ และช่วยให้มันว่ายไป-มาได้ง่ายขึ้น โดยที่ไม่รู้สึกว่าเหมือนลากตัวเก้าอี้นั้นไปด้วย

            เทย์เลอร์ ดีน วัย 19 ปี เพื่อนสาวของเดเร็ก ได้นำภาพปลาทองที่อยู่ในวีลแชร์ประดิษฐ์ของเดเร็ก นำไปโพสต์ลงทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็มีผู้คนเข้าไปกดถูกใจให้มากกว่า 7.7 หมื่นครั้ง และรีทวิตไปกว่า 2.6 หมื่นครั้ง หลาย ๆ คนต่างพากันชื่นชมในน้ำใจที่ช่วยชีวิตเจ้าปลาทองไว้ แม้มันจะเป็นแค่ชีวิตของสัตว์ตัวเล็ก ๆ ก็ตาม ...น่าซาบซึ้งใจสุด ๆ

ภาพจาก ทวิตเตอร์ @taylorndean
***หมายเหตุ : อัพเดทข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 15.13 น. วันที่ 17 มีนาคม 2560
https://pet.kapook.com/view167803.html

No comments:

Post a Comment