พบรูปสลักขนาดใหญ่ของ
ฟาโรห์ แรแมซีสที่ 2
กษัตริย์อียิปต์โบราณผู้มีชื่อเสียงมากที่สุด นักโบราณคดีชี้ น่าจะยังมีรูปปั้นแบบนี้ฝังอยู่อีกหลายที่ใต้เมือง
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2560 เนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก รายงานข่าวการค้นพบทางโบราณคดีครั้งสำคัญที่น่าตื่นเต้นอย่างมาก เมื่อทีมนักโบราณคดีค้นพบรูปสลักขนาดใหญ่ที่น่าจะเป็นของฟาโรห์แรแมซีสที่ 2 หรือ รามเสสที่ 2 ฝังอยู่ใต้โคลนในพื้นที่สลัมแห่งหนึ่งของกรุงไคโร ประเทศอียิปต์
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2560 เนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก รายงานข่าวการค้นพบทางโบราณคดีครั้งสำคัญที่น่าตื่นเต้นอย่างมาก เมื่อทีมนักโบราณคดีค้นพบรูปสลักขนาดใหญ่ที่น่าจะเป็นของฟาโรห์แรแมซีสที่ 2 หรือ รามเสสที่ 2 ฝังอยู่ใต้โคลนในพื้นที่สลัมแห่งหนึ่งของกรุงไคโร ประเทศอียิปต์
การขุดค้นดังกล่าวเกิดขึ้นโดยความร่วมมือของทีมนักโบราณคดี
2 ชาติ คือนักโบราณคดีจากกระทรวงโบราณคดีของอียิปต์ และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยไลป์ซิก
ประเทศเยอรมนี การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากพื้นที่บริเวณดังกล่าวมีขยะของเสียจากอุตสาหกรรมสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก
อีกทั้งน้ำใต้ดินก็เพิ่มสูงขึ้นตลอด จึงเป็นอุปสรรคต่อการขุดค้น แต่อย่างไรก็ตาม
ก็สำเร็จไปได้ด้วยดีในขั้นตอนแรก
รูปสลักดังกล่าวมีขนาดความสูงราว 26 ฟุต หรือเกือบ 8 เมตร แกะสลักมาจากหินควอร์ตไซต์ คาดว่ามีอายุเก่าแก่มาก นับย้อนไปได้ราว 3,000 ปี รูปสลักไม่ได้อยู่สภาพที่สมบูรณ์ 100 เปอร์เซนต์ อีกทั้งใบหน้าก็มีรอยแตกเสียหาย แต่ทางทีมนักโบราณคดีก็มั่นใจอย่างมากว่านี่น่าจะเป็นรูปสลักฟาโรห์รามเสสที่ 2 อย่างแน่อน เพราะนอกจากจะพบรูปสลักชิ้นนี้แล้ว ยังค้นพบส่วนหนึ่งของวิหารที่มีรูปเคารพเทพเจ้ารา ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่กษัตริย์พระองค์นี้ทรงเคารพนับถือ นอกจากนี้ยังค้นพบรูปสลักหินปูนของฟาโรห์เซติที่ 2 (พระราชนัดดาของฟาโรห์รามเสสที่ 2) อยู่ใกล้กันในบริเวณดังกล่าวด้วย
"เราค้นพบชิ้นส่วนท่อนบน พร้อมกับใบหน้าส่วนล่างของรูปสลัก เมื่อเรายกส่วนหัวขึ้นมาด้านบน เราก็ค้นพบว่ายังชิ้นส่วนของมงกุฎ และตาข้างขวาซ่อนอยู่ด้านล่างอีกด้วย" คาลีด อัล อานานี รัฐมนรีว่าการกระทรวงโบราณคดีแห่งอียิปต์กล่าว
รูปสลักดังกล่าวมีขนาดความสูงราว 26 ฟุต หรือเกือบ 8 เมตร แกะสลักมาจากหินควอร์ตไซต์ คาดว่ามีอายุเก่าแก่มาก นับย้อนไปได้ราว 3,000 ปี รูปสลักไม่ได้อยู่สภาพที่สมบูรณ์ 100 เปอร์เซนต์ อีกทั้งใบหน้าก็มีรอยแตกเสียหาย แต่ทางทีมนักโบราณคดีก็มั่นใจอย่างมากว่านี่น่าจะเป็นรูปสลักฟาโรห์รามเสสที่ 2 อย่างแน่อน เพราะนอกจากจะพบรูปสลักชิ้นนี้แล้ว ยังค้นพบส่วนหนึ่งของวิหารที่มีรูปเคารพเทพเจ้ารา ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่กษัตริย์พระองค์นี้ทรงเคารพนับถือ นอกจากนี้ยังค้นพบรูปสลักหินปูนของฟาโรห์เซติที่ 2 (พระราชนัดดาของฟาโรห์รามเสสที่ 2) อยู่ใกล้กันในบริเวณดังกล่าวด้วย
"เราค้นพบชิ้นส่วนท่อนบน พร้อมกับใบหน้าส่วนล่างของรูปสลัก เมื่อเรายกส่วนหัวขึ้นมาด้านบน เราก็ค้นพบว่ายังชิ้นส่วนของมงกุฎ และตาข้างขวาซ่อนอยู่ด้านล่างอีกด้วย" คาลีด อัล อานานี รัฐมนรีว่าการกระทรวงโบราณคดีแห่งอียิปต์กล่าว
ฟาโรห์รามเสสที่ 2 หรือรามเสสมหาราช
คือกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อียิปต์โบราณ พระองค์ทรงปกครองอาณาจักรอียิปต์ในช่วง
1279-1213 ปีก่อนคริสตกาล ฟาโรห์รามเสสที่ 2 ทรงเป็นกษัตริย์นักรบผู้เกรียงไกร สามารถแผ่ขยายอำนาจของอียิปต์ไปได้ไกลจนถึงสุดขอบซีเรียและซูดาน
นอกจากนี้ยังเป็นที่เชื่อกันว่า พระองค์คือฟาโรห์ที่ปรากฏในพระธรรมอพยพของคัมภีร์ไบเบิล
ว่าด้วย เหตุการณ์ที่โมเสสพาทาสชาวยิวอพยพหนีออกจากอาณาจักรอียิปต์ผ่านทางทะเลแดง
ก่อนหน้านี้ในปี 2549 นักโบราณคดีได้ค้นพบวิหารเทพเจ้ารา หรือเทพแห่งดวงอาทิตย์ใต้กรุงไคโร วิหารแห่งนี้มีขนาดใหญ่มากที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมา ด้านในวิหารรูปสลักฟาโรห์รามเสสที่ 2 จำนวนมาก ประดิษฐานอยู่ด้านใน รวมแล้วน้ำหนักมากกว่า 5 ตัน
ทีมนักโบราณคดีจะทำการขุดตามหาชิ้นส่วนที่เหลือของรูปสลักต่อไป เมื่อชิ้นส่วนทั้งหมดทุกค้นพบแล้วนำมาประกอบเข้าด้วยกันแล้วนั้น รูปสลักชิ้นนี้จะถูกนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์แกรนด์อียิปต์ ซึ่งจะมีกำหนดเปิดให้เข้าชมในปี 2561 นอกจากนี้ยังคาดว่ายังคงมีรูปสลักที่ทรงคุณค่าทางโบราณคดีเช่นนี้ฝังอยู่อีกหลายจุดทั่วกรุงไคโร
ภาพจาก KHALED DESOUKI / AFP
ก่อนหน้านี้ในปี 2549 นักโบราณคดีได้ค้นพบวิหารเทพเจ้ารา หรือเทพแห่งดวงอาทิตย์ใต้กรุงไคโร วิหารแห่งนี้มีขนาดใหญ่มากที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมา ด้านในวิหารรูปสลักฟาโรห์รามเสสที่ 2 จำนวนมาก ประดิษฐานอยู่ด้านใน รวมแล้วน้ำหนักมากกว่า 5 ตัน
ทีมนักโบราณคดีจะทำการขุดตามหาชิ้นส่วนที่เหลือของรูปสลักต่อไป เมื่อชิ้นส่วนทั้งหมดทุกค้นพบแล้วนำมาประกอบเข้าด้วยกันแล้วนั้น รูปสลักชิ้นนี้จะถูกนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์แกรนด์อียิปต์ ซึ่งจะมีกำหนดเปิดให้เข้าชมในปี 2561 นอกจากนี้ยังคาดว่ายังคงมีรูปสลักที่ทรงคุณค่าทางโบราณคดีเช่นนี้ฝังอยู่อีกหลายจุดทั่วกรุงไคโร
ภาพจาก KHALED DESOUKI / AFP
https://hilight.kapook.com/view/150300
No comments:
Post a Comment