ตามไปดูเจ้าป๊อปปี้ ลูกสุนัขวัย 7 เดือนที่ขาพิการ
แต่ใจสู้ไม่ยอมแพ้ ค่อย ๆ คลานพาร่างลากไปไกลกว่าหลายกิโลเมตร
เพื่อไปขอความช่วยเหลือจากคนใจดี จนได้พบในที่สุด
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2560 เว็บไซต์เดอะโดโด้ เผยเรื่องราวของลูกสุนัขน่าสงสารตัวหนึ่ง ที่ได้รับบาดเจ็บกระดูกสันหลังหัก และขาหลังทั้ง 2 ข้างพิการ ไม่สามารถเดินได้เป็นปกติ ต้องอาศัยเพียงขาหน้า 2 ข้าง พร้อมกับออกแรงลากตัวให้ไปข้างหน้า ซึ่งก็ไม่ทราบว่า ถูกสุนัขด้วยกันเองกัดหรือถูกมนุษย์ทำร้ายมา และไม่รู้ว่ามันเจ็บมานานเท่าไหร่แล้วอาจจะหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน ก่อนจะหอบสังหารพาร่างมาพบคนใจดี และช่วยเหลือมันได้ในที่สุด
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2560 เว็บไซต์เดอะโดโด้ เผยเรื่องราวของลูกสุนัขน่าสงสารตัวหนึ่ง ที่ได้รับบาดเจ็บกระดูกสันหลังหัก และขาหลังทั้ง 2 ข้างพิการ ไม่สามารถเดินได้เป็นปกติ ต้องอาศัยเพียงขาหน้า 2 ข้าง พร้อมกับออกแรงลากตัวให้ไปข้างหน้า ซึ่งก็ไม่ทราบว่า ถูกสุนัขด้วยกันเองกัดหรือถูกมนุษย์ทำร้ายมา และไม่รู้ว่ามันเจ็บมานานเท่าไหร่แล้วอาจจะหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน ก่อนจะหอบสังหารพาร่างมาพบคนใจดี และช่วยเหลือมันได้ในที่สุด
อะแมนด้า สตรอนซา เจ้าหน้าที่หน่วยวิจัยช้างทางภาคเหนือของเขตพื้นที่โอคาวังโก
ประเทศบอตสวานา และเพื่อนร่วมงานของเธอมีอันต้องตกใจไม่น้อย เมื่อได้พบว่าเจ้าสุนัขตัวนี้ค่อย
ๆ คืบคลานพาร่างพิการของมันมาขอความเมตตาถึงที่นี่ ด้วยใจที่มุ่งมั่นและเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง
แม้ว่าร่างกายจะไร้เรี่ยวแรง ร่างกายผอมโซ และตัวเปียกโชกไปด้วยน้ำฝน
เมื่อได้เห็นเช่นนั้น อะแมนด้าและเพื่อนก็พากันเข้าไปช่วยเหลือมันในทันที
พวกเธอพยายามอย่างสุดความสามารถเท่าที่จะทำได้เพื่อช่วยเหลือมัน อย่างไรก็ตามแคมป์ที่เธออยู่นั้น
ต้องใช้เวลาขับรถนานถึง 8
ชั่วโมงหากจะพามันไปหาสัตวแพทย์ที่อยู่ใกล้ที่สุด และขณะนั้นก็ยังไม่มีรถที่จะสะดวกขับไป
ซึ่งในช่วง 2-3 วันระหว่างรอความพร้อมที่จะพามันไปพบแพทย์ได้
ทางอะแมนด้าก็คอยดูแลมันไปชั่วคราวอย่างดีที่สุด
และแล้วในที่สุด เจ้าป๊อปปี้ก็ได้รับการพาตัวนั่งรถไปนาน
8 ชั่วโมง พร้อมกับไปต่อเรือนั่งข้ามแม่น้ำ เพื่อไปยังคลินิกสัตวแพทย์ที่ใกล้ที่สุด
โดยหลังจากพบแพทย์ ได้วินิจฉัยว่าเจ้าป๊อปปี้มีอายุประมาณ 7 เดือน
และจำเป็นต้องทำการผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อรักษากระดูกสันหลังที่ได้รับบาดเจ็บ อะแมนด้าและเพื่อนจึงได้ไปขอระดมทุนช่วยเหลือเจ้าป๊อปปี้จากเว็บไซต์
GoFundMe
อะแมนด้า เผยว่า แม้ว่าโอกาสที่จะช่วยเหลือเจ้าป๊อปปี้ให้หายกลับมาเป็นปกติจะน้อยมาก แต่มันยังสู้เพื่อจะมีชีวิตรอด เดินทางมาไกลเพื่อขอความช่วยเหลือให้ได้มีชีวิตอยู่ต่อ และเธอก็ไม่เห็นด้วยกับวิธีการุณยฆาตด้วย โดยภายหลังจากที่มันได้รับอาหารดี ๆ ได้กินน้ำ กินยาแก้อักเสบ อาการของมันก็เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ทางแพทย์ก็ต้องการให้มันมีกล้ามเนื้อและแข็งแรงมากกว่านี้อีกสักหน่อย เพื่อความพร้อมในการเข้ารับความเสี่ยงในการผ่าตัด
ตั้งแต่ได้รับการช่วยเหลือมา เจ้าป๊อปปี้ก็สร้างความประหลาดใจหลาย
ๆ อย่างให้กับอะแมนด้าและเพื่อนมากมาย พวกเธอต่างรู้สึกเอ็นดูและประทับใจมันเป็นพิเศษ
ตาของมันราวกับสะกดพวกเธอไว้ได้ในทันที่ได้เจอ มันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและใจที่สู้เกินร้อยแม้ว่าร่างกายมันจะแย่มากและดูน่าสิ้นหวังก็ตามที
โดยในขณะนี้เจ้าป๊อปปี้อยู่ในการดูแลของเพื่อนของอะแมนด้า ซึ่งมันดูกลับมามีชีวิตชีวาและแข็งแรงขึ้นมาก โดยในเดือนเดียวกันนั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เตรียมประเมินสภาพร่างกายเพื่อรักษามันต่อไป ซึ่งอะแมนด้าเองเชื่อว่า มันจะต้องกลับมาเดินได้อีกครั้ง หรือหากไม่สำเร็จก็อาจจะสร้างล้อลากช่วยให้เดินได้บ้าง ซึ่งเชื่อว่ามันจะต้องมีอนาคตที่สดใสอย่างแน่นอน
ภาพจาก
เฟซบุ๊ก
Amanda Stronza
https://pet.kapook.com/view167413.html
No comments:
Post a Comment