Saturday, April 29, 2017

วินาทีมรณะ รถยนต์พุ่งทะลุกำแพงสำนักงาน ลูกจ้างเฉียดตาย-รปภ. โชคร้ายดับคาที่




             วงจรปิดเผยวินาทีชีวิต รถยนต์พุ่งทะลุกำแพงสำนักงาน พนักงานด้านในรอดตายหวุดหวิด ขณะที่ รปภ. สาว 1 รายที่เดินตรวจด้านนอกเคราะห์ร้าย ดับสลดสังเวยเหตุ

              โซเชียลมีเดียประเทศจีนพากันแชร์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ระทึกขวัญภายในสำนักงานแห่งหนึ่ง จากคลิปวิดีโอที่กล้องวงจรปิดภายในบันทึกภาพไว้ได้ จะเห็นว่า ในตอนแรกเห็นการณ์ทุกอย่างเป็นปกติเช่นเดียวกับออฟฟิศทั่ว ๆ ไป มีชาย 3 รายอยู่ด้านใน ซึ่งไม่มีใครล่วงรู้ว่า ไม่กี่วินาทีต่อจากนั้นก็เกิดเหตุไม่คาดฝัน จู่ ๆ ได้มีรถยนต์พุ่งเข้ามาชนกำแพงจากด้านนอกทะลุเข้ามายังด้านใน แรงปะทะเป็นเหตุให้ชายที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ตรงโซฟากระเด็นไปอีกฝั่งผนัง ขณะที่ชายที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะร่วงหายไปกองที่พื้น ส่วนชายอีกรายที่อยู่ห่างจากกำแพงที่สุด ยืนอึ้งด้วยความช็อก โดยเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วมากภายในเวลาแค่ 10 วินาทีเท่านั้น

  
          จากรายงานของ เว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์ (27 เมษายน 2560) เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ของเมื่อวันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา ที่บริเวณชั้น B2 ของศูนย์การค้าหัวเหมา ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน โดยจุดเกิดเหตุเป็นกำแพงที่เชื่อมระหว่างลานจอดรถชั้นใต้ดินกับสำหนักงานแห่งหนึ่งซึ่งไม่มีการเปิดเผยชื่อ

 
              ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบสภาพกำแพงถูกชนทะลุเป็นช่องกว้าง รวมไปถึงทรัพย์สินที่อยู่ภายในสำนักงานพังเสียหาย จากรายงานระบุว่า พนักงานที่อยู่ภายในออฟฟิศขณะเกิดเหตุไม่มีใครได้รับบาดเจ็บรุนแรงหรือเสียชีวิต รวมไปถึงเจ้าของรถคันดังกล่าวที่ขับมาชน แต่พนักงานรักษาความปลอดภัยหญิง 1 ราย ที่ขณะเกิดเหตุกำลังอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่เดินตรวจพื้นที่อยู่ที่บริเวณดังกล่าว เคราะห์ร้ายถูกรถยนต์พุ่งเข้าชนอย่างจังจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตทันที 

  
            ด้านพยานที่เห็นเหตุการณ์ เผยกับสื่อท้องถิ่นระบุว่า เห็นผู้ขับรถยนต์คันดังกล่าวเป็นหญิงสวมส้นสูง ซึ่งคาดว่าอาจเป็นสาเหตุให้เหยียบเบรกผิดไปโดนคันเร่ง จนเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น อย่างไรก็ดีจากรายงานไม่ได้เปิดเผยสาเหตุที่แน่ชัดของอุบัติเหตุในครั้งนี้ โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ





ภาพจาก wxn.qq.com
https://hilight.kapook.com/view/152680

No comments:

Post a Comment