Friday, September 30, 2016

เมื่อคืนนี้ กรุงเรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์ ประกาศปิดไฟถนนเพื่อให้คนได้ชมปรากฏการณ์แสงเหนือ หรือ แสงออโรร่า




เมื่อคืนนี้ กรุงเรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์ ประกาศปิดไฟถนนเพื่อให้คนได้ชมปรากฏการณ์แสงเหนือ หรือ แสงออโรร่า Via @sernsin_s (photos : hebbihebb, photoadams)












โพสท์โดย: SpiderMeaw
http://board.postjung.com/991669.html

Thursday, September 29, 2016

ซึ้งหัวใจ หนุ่มซีเรียไม่ยอมอพยพจากเมืองอะเลปโป เพื่อดูแลแมวถูกทิ้งนับร้อย




สำนักข่าว BBC  เผยเรื่องราวชวนซาบซึ้งของหนุ่มซีเรียผู้มีจิตใจเมตตา โมฮัมหมัด อาลาอา อัลจาลีล ที่แม้ว่าเมืองอะเลปโปจะเสียหายจากสงคราม และอันตรายในการใช้ชีวิตอยู่อย่างไร เขาก็ยังไม่อพยพไปไหน ทุ่มเทชีวิตให้กับการดูแลเจ้าเหมียวนับร้อยตัวในเมืองแห่งนี้

          รายงานระบุว่า ก่อนที่สงครามจะเริ่มต้นขึ้น โมฮัมหมัดมีอาชีพเป็นช่างไฟฟ้า แต่เมื่อบ้านเมืองเกิดสงครามเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาก็ต้องมาขับรถพยาบาลช่วยเหลือผู้คนในเมือง นอกจากนี้ พอเขาได้พบว่ามีแมวเหมียวถูกทิ้งให้ใช้ชีวิตเตร็ดเตร่นับไม่ถ้วน ทั้งที่เป็นแมวจรและแมวที่ถูกเจ้าของทิ้งไว้ เขาเลยตั้งศูนย์สงเคราะห์แมวแห่งเล็ก ๆ ขึ้นในปี 2554

          โมฮัมหมัดเผยว่าในช่วงแรก ๆ นั้นเขามีแมวในความดูแลเพียงแค่ 20 ตัวเท่านั้น แต่หลังจากที่สงครามยืดเยื้อยาวนานผ่านไปหลายปีเข้าตอนนี้เขามีสมาชิกเหมียวในศูนย์ฯ ที่ต้องดูแลมากกว่า 100 ตัวเลยทีเดียว

          และแน่นอนว่าเมื่อเจ้าเหมียวนับร้อยนี้กลายเป็นสิ่งที่เขาต้องดูแลและทิ้งไม่ได้ ทำให้โมฮัมหมัดยืนยันที่จะอยู่ที่นี่ไม่อพยพหนีสงครามไปไหน แม้ว่าตอนนี้เพื่อนของเขาส่วนใหญ่จะอพยพออกจากอะเลปโปไปหมดแล้วก็ตาม

          "นับตั้งแต่ทุกคน รวมถึงเพื่อน ๆ ของผมเองทิ้งบ้านเกิดแห่งนี้ไป เจ้าแมวเหมียวเหล่านี้ก็กลายเป็นเพื่อนของผม และผมจะอยู่กับพวกมันต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม" โมฮัมหมัด กล่าว


http://pet.kapook.com/view157810.html


Tuesday, September 27, 2016

อะจ๊ากกก !! จนท. สนามบินผงะ หญิงยัดลำไส้สามีผู้ล่วงลับใส่กระเป๋าเดินทาง




          เจ้าหน้าที่สนามบินในออสเตรียแทบช็อก เมื่อตรวจกระเป๋าหญิงรายหนึ่งแล้วค้นพบลำไส้มนุษย์อยู่ในนั้น ด้านผู้โดยสารหญิงเผย เป็นลำไส้สามีที่ตายแล้ว

          เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2559 เว็บไซต์เมโทร รายงานข่าวชวนอึ้ง เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองในสนามบินกราซ กรุงเวียนนาของออสเตรีย ได้ขอตรวจค้นกระเป๋าเดินทางของผู้หญิงคนหนึ่ง หลังจากสังเกตพบท่าทางพิรุธผิดปกติของเธอ และเมื่อเปิดกระเป๋าดูก็ต้องช็อกเมื่อพบว่า  สิ่งที่อยู่ในกระเป๋านั้นคือลำไส้ของมนุษย์ !!
          หลังจากสอบถามก็ได้ความว่า ลำไส้ดังกล่าวเป็นของสามีเธอที่เสียชีวิตแล้ว และเธอหิ้วมันขึ้นเครื่องจากโมรอคโกมายังออสเตรียเพื่อจะเอาไปตรวจสอบหาสารพิษ เนื่องจากเธอเชื่อว่าสามีเธอเสียชีวิตเพราะโดนวางยา

          อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะเป็นกรณีที่แปลกประหลาดและชวนขนลุก แต่ลำไส้ที่เธอพกมันก็ไม่ใช่ของผิดกฎหมาย เธอจึงสามารถหิ้วมันผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองไปได้อย่างสบาย ๆ หลังจากนั้น

ภาพจาก dianliwenmi
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
http://hilight.kapook.com/view/142691

Monday, September 26, 2016

สั่งพักงาน !! นักข่าวสาวกางร่ม-ใส่แว่นดำสัมภาษณ์ชาวบ้าน มาดคุณนายมาเต็ม




         นักข่าวสาวจีนเจอสั่งพักงาน หลังเธอลงพื้นที่สัมภาษณ์ผู้ประสบภัยไต้ฝุ่นเมอรันตีด้วยมาดคุณนาย กางร่ม-ใส่แว่นกันแดด จนชาวเน็ตจวกเละไม่ให้เกียรติผู้ให้สัมภาษณ์กันบ้างเลย

          รายงานจากเว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์ รายงานว่า นักข่าวสาวรายนี้ เป็นนักข่าวจากสถานีโทรทัศน์เมืองเซียะเหมินของจีน เธอได้ลงพื้นที่รายงานข่าวผลกระทบของชาวเมืองจากไต้ฝุ่นเมอรันตี ซึ่งทำให้เกิดดินถล่มในบางพื้นที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และในการลงพื้นที่ครั้งนี้ เธอก็ได้ไปสัมภาษณ์อาสาสมัครที่มาช่วยทำความสะอาดเมืองให้คืนสู่ภาวะปกติ และตรงจุดนี้เองที่นำมาซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางบนโลกออนไลน์

          ในการสัมภาษณ์อาสาสมัครดังกล่าว จะเห็นได้ว่านักข่าวสาวรายนี้ไม่ได้วางบทบาทให้สมเป็นนักข่าวแต่อย่างใด เธอเข้าไปสัมภาษณ์อาสาสมัครด้วยมาดคุณนายสุด ๆ มือหนึ่งถือไมค์ มือหนึ่งกางร่ม มีการสวมแว่นกันแดด และมีกระเป๋าถือคล้องอยู่ที่แขน ดูไม่เหมือนนักข่าวเลยจริง ๆ

          หลังจากภาพการสัมภาษณ์ของเธอถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักทันที โดยชาวเน็ตมีความเห็นว่าเธอไม่ให้เกียรติผู้สัมภาษณ์เลยแม้แต่นิดเดียว เช่นเดียวกับนักข่าวจากสำนักข่าวอื่น ๆ ก็เห็นว่านี่เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมเอาเสียเลย

          อย่างไรก็ดีในที่สุดทางสถานีโทรทัศน์ที่นักข่าวคุณนายสังกัดอยู่ก็ได้ออกมาแถลงผ่านเว็บไซต์เว่ยป๋อว่า ทางบริษัทได้สั่งพักงานนักข่าวสาวแล้ว ฐานสัมภาษณ์ผู้ประสบภัยอย่างไม่เหมาะสมและทำลายภาพลักษณ์ของนักข่าว

ภาพจาก Shanghaiist 
http://hilight.kapook.com/view/142594

Saturday, September 24, 2016

สุดเศร้า...ว่าที่เจ้าสาวถูกโรคร้ายคร่าชีวิต เพียงไม่กี่วันก่อนวันสำคัญมาถึง




         เรื่องรักแสนเศร้า ว่าที่เจ้าสาวถูกโรคร้ายคร่าชีวิต เพียงไม่กี่วันก่อนวันสำคัญมาถึง ด้านครอบครัวเศร้าเกินกว่าจะเอ่ยคำ

          การได้สวมชุดเจ้าสาว เข้าพิธีสาบานรักกับชายที่เราอยากจะใช้ชีวิตร่วมกันไปจนแก่เฒ่า คงเป็นภาพฝันที่หญิงสาวทั้งหลายปรารถนาและอยากให้มาถึง แต่น่าเศร้าที่สำหรับใครบางคน ความฝันนั้นกลับต้องดับลงในเวลาเพียงไม่นานก่อนที่มันจะเกิดขึ้นจริง

          โดยเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2559 เว็บไซต์มิเรอร์ เปิดเผยเรื่องราวของ สเตซี่ เทอร์เนอร์ ครูสาววัย 29 ปี ที่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับคู่หมั้นหนุ่ม ลี มุทช์ วัย 28 ปี ในเอดินเบอระ สกอตแลนด์ ในวันที่ 1 ตุลาคมที่จะถึงนี้ แต่น่าเศร้าที่โรคมะเร็งได้คร่าชีวิตของเธอไป ท่ามกลางความช็อกของครอบครัวและเพื่อน ๆ ที่ได้ทราบข่าวร้ายซึ่งมาถึงเร็วกว่าที่คาด

          สำหรับสเตซี่ เธอทำงานเป็นครูสอนเด็กเล็กและใช้ชีวิตอยู่กับชายคนรัก ทั้งคู่เพิ่งจะซื้อบ้านหลังแรกด้วยกันเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และเริ่มวางแผนแต่งงานกันหลังจากที่เธอล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งในเดือนมิถุนายน ข่าวที่ไม่คาดคิดทำให้เพื่อน ๆ ต่างร่วมใจกันระดมเงินทุนเพื่อช่วยให้คู่รักได้มีงานแต่งงานในฝัน

  
         อย่างไรก็ตามก่อนที่ความฝันของสเตซี่จะเป็นจริง สเตซี่ก็มีอันต้องจากไปในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (22 กันยายน) ก่อนวันสำคัญของเธอเพียงไม่กี่วัน

          ทั้งนี้หลังจากที่เพื่อน ๆ ได้ทราบข่าว ต่างก็แสดงความเศร้าเสียใจต่อความสูญเสียในครั้งนี้ เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมงานของสเตซี่ ที่เขียนไว้อาลัยว่า สวรรค์ได้รับสิ่งที่สวยงามไปแล้ว ฝากดูแลและให้ความรักแก่นางฟ้าคนใหม่ด้วย เราจะคิดถึงเธอเสมอ

          ขณะที่ช่างภาพของงานแต่งงานเสียใจที่ได้ทราบข่าว เขาได้พบกับสเตซี่และว่าที่เจ้าบ่าวของเธอหลายครั้งระหว่างที่ทั้งคู่วางแผนแต่งงาน บ่อยครั้งที่ความรักของพวกเขาสะท้อนออกมาอย่างเห็นเด่นชัด มันควรจะเป็นงานแต่งที่งดงาม


ภาพจาก เฟซบุ๊ก Staci Turner, เฟซบุ๊ก Lee Mutch
http://hilight.kapook.com/view/142548