ภาพจาก Latonya Lark
สาวช็อก อยู่ ๆ เจอเต่าบินพุ่งกระแทกกระจกรถ ปักคาอยู่แบบนั้น สุดงงมาได้ยังไง ชี้หากไม่ชะลอรถ เต่าคงทะลุมาโดนหัวเต็ม ๆ สุดสลดเจ้าเต่าไม่รอด
วันที่ 27 พฤษภาคม 2563 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า หญิงรายหนึ่งมีอันต้องช็อกหนักเมื่ออยู่ ๆ ก็มีวัตถุแข็ง ๆ ขนาดใหญ่พุ่งเข้ามากระแทกใส่กระจกหน้ารถของเธอจนแตก ขณะที่เธอกำลังขับรถอยู่บนถนนในเมืองซาวันนาห์ รัฐจอร์เจีย สหรัฐฯ และที่ทำให้เธออึ้งหนักไปยิ่งกว่านั้นก็คือวัตถุดังกล่าวไม่ใช่ก้อนหินหรืออิฐก้อนใหญ่ แต่เป็นเต่าตัวเป็น ๆ
เหตุการณ์เต่าบินนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ขณะที่ ลาตอนยา ลาร์ก กับน้องชายของเธอ เควิน แกรนต์ กำลังขับรถเพลิน ๆ โดยอยู่ ๆ หางตาของลาร์กก็เหลือบไปเห็นวัตถุลักษณะคล้ายก้อนอิฐที่กำลังพุ่งตรงเข้ามายังรถของเธอ ในจังหวะนั้นเธอรีบชะลอรถ พร้อมตะโกนบอกน้องชายว่า "พระเจ้า ! มีอิฐบินข้ามถนนมา"
และเพียงไม่กี่วินาทีจากนั้น วัตถุดังกล่าวก็กระแทกเข้ากับกระจกหน้ารถของเธอเข้าเต็ม ๆ จนเกิดเสียงดังสนั่นคล้ายระเบิด เศษแก้วแตกกระจายทั่วตัวเธอกับน้องชาย อย่างไรก็ตามเคราะห์ดีที่พวกเธอมีสติและพยายามหาอะไรมากำบัง ทำให้ได้แผลถูกกระจกบาดเล็กน้อย และโชคดีที่ลาร์กชะลอความเร็วในจังหวะนั้น ทำให้วัตถุดังกล่าวติดอยู่คากระจก ไม่ได้พุ่งทะลุเข้ามากระแทกใส่หัวของน้องชายเธอ
"ผมจำได้ว่าพยายามหาอะไรบังตอนที่พี่ร้องเรียกชื่อผม หลังจากเต่ากระแทกกระจก พี่ยังช็อกและขับรถต่อไปอีกสักพัก ขณะที่ตัวผมซึ่งเต็มไปด้วยเลือด พยายามบอกเธอให้ใจเย็นและโทร. เรียกตำรวจ" น้องชายของลาร์ก เผยกับซีเอ็นเอ็น
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุและได้มองดูชัด ๆ ลาร์กจึงเพิ่งรู้ว่าสิ่งที่พุ่งเข้ามาชนรถของเธอไม่ใช่ก้อนอิฐอย่างที่เข้าใจ แต่เป็นเต่าตัวหนึ่ง โดยหลังจากนั้นมันก็ได้ถูกนำตัวไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเพื่อรักษาต่อไป แต่น่าเศร้าที่เธอได้ทราบในเวลาต่อมา ว่าเจ้าเต่าตัวนี้ต้องเสียขาจากการกระแทก และมันก็ตายลงเพราะเสียเลือดมาก
ในขณะที่ทางตำรวจเองก็ไม่แน่ใจว่าเจ้าเต่าตัวนี้กลายเป็นเต่าบิน มากระแทกกระจกหน้ารถคันดังกล่าวได้อย่างไร แต่คู่พี่น้องคาดว่าอาจมีรถคันอื่นชนเต่าตัวนี้ จนทำให้มันกระเด็นลอยข้ามถนนมา จนเกิดเหตุดังกล่าว โดยหลังเกิดเหตุลาร์กก็ได้นำเรื่องมาแชร์ต่อบนโซเชียลมีเดีย เพื่อเตือนใจผู้ขับขี่รถทั้งหลายให้ระมัดระวังสัตว์ป่าขณะขับขี่ด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก ซีเอ็นเอ็น
https://hilight.kapook.com/view/202669
No comments:
Post a Comment